ขายอาหารออนไลน์ให้ปังต้องทำอย่างไร?

เมื่อการบริการจัดส่งสินค้าเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจอาหาร รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นประจำในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน และอินเทอร์เน็ต ทำให้ในปัจจุบันมีแพลตฟอร์มส่งอาหาร (Food Delivery) กำเนิดขึ้นมามากมาย เพื่อตอบสนองผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น Grab Food, Lineman, Food panda, หรือ Robinhood เป็นต้น และมีอัตราการเติบโตที่สูงมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงโควิดระบาด 2-3 ปีที่ผ่านมา ผู้คนต้องกักตัวอยู่ในบ้าน ทำให้ธุรกิจอาหารออนไลน์รวมถึงแพลตฟอร์มส่งอาหารเติบโตขึ้นอย่างพุ่งพรวด ทั้งกลุ่มผู้ที่ทำธุรกิจอาหารอยู่แล้วก็ผันตัวนำร้านอาหารเข้าสู่แพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชั่นส่งอาหาร (Food Delivery) เพื่อขยายหน้าร้านสู่โลกออนไลน์ หรือกลุ่มผู้ที่ไม่เคยทำธุรกิจอาหารก็สามารถเข้าสู่วงการธุรกิจอาหารออนไลน์ได้เช่นกัน โดยที่ไม่ต้องมีหน้าร้านก็ได้ 

ดังนั้นการทำธุรกิจอาหารออนไลน์ถือว่าทำได้ง่ายมาก แต่ก็มีการแข่งขันในตลาดที่สูงมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งทางตรงและคู่แข่งทางอ้อม ซึ่งก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเปิดร้านอาหารออนไลน์แล้วขายดี การทำธุรกิจเราก็ต้องวางแผนให้ดีก่อนจะลงมือทำ วันนี้ MyWaWa  ได้รวบรวมวิธีการวางแผนเพื่อขายอาหารออนไลน์ให้ได้ยอดปัง ๆ มาให้ทุกคนแล้ว ตามมาอ่านกันเลย!

• วิเคราะห์กลุ่มลูกค้าของร้านขายอาหารออนไลน์

สิ่งสำคัญอย่างแรกก่อนเริ่มทำธุรกิจ เราต้องศึกษาและวิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายก่อน โดยตั้งคำถามและตอบคำถามให้ได้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคือใคร ? เช่น เพศ อายุ ความต้องการ ประเภทอาหารที่ชื่นชอบ ช่วงเวลาที่สั่งอาหาร เป็นต้น เพื่อที่เราจะทำอาหารขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเหล่านั้น โดยเราขอแนะนำว่า จากสถิติกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการสั่งอาหารออนไลน์ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Gen Y ที่มีพฤติกรรมกล้าลองสิ่งใหม่ ๆ แต่ก็ต้องหาข้อมูลรีวิวก่อนสั่งซื้อ ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่เราจะได้ลองเสนอสิ่งใหม่ ๆ ที่น่าดึงดูดให้กับลูกค้ากลุ่มนี้ค่ะ

• เลือกเมนูที่ทำได้ถนัด แต่ต้องขายดีในตลาดด้วย

ถ้าหากเรามีเมนูที่ถนัดอยู่แล้ว แถมรสชาติยังถูกปาก ไม่ต้องกังวลในการทำใหม่ในทุก ๆ ครั้ง จะยิ่งทำให้เราไม่กดดันตัวเองและทำอาหารออกมาได้ดี อีกทั้งถ้าหากเมนูนั้นเป็นเมนูที่ขายได้ดีในตลาดร้านขายอาหารออนไลน์ จะยิ่งทำให้ร้านของเรามียอดสั่งซื้อเข้าทุก ๆ วันอีกด้วย

• เปิดหน้าร้านอาหารออนไลน์หลาย ๆ แพลตฟอร์ม

การนำร้านอาหารเข้าร่วมกับหลาย ๆ แพลตฟอร์มส่งอาหาร อย่างเช่น Grab Food, Lineman, Food panda, Robinhood จะทำให้ร้านของคุณเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เป็นการขยายหน้าร้านโดยไม่ต้องเสียต้นทุนเช่าพื้นที่ และที่สำคัญคุณไม่ต้องโปรโมทหรือทำโฆษณาร้านด้วยตัวเอง เพราะทางแพลตฟอร์มเหล่านั้นจะมีทีมการตลาดคอยทำการตลาดให้กับร้านอาหารของคุณ

อีกทั้งยังไม่ต้องจัดส่งอาหารเองอีก เพราะแพลตฟอร์มส่งอาหารเหล่านี้จะมีไรเดอร์รับ-ส่งอาหารให้เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตามก่อนเข้านำร้านของคุณร่วมกับแพลตฟอร์มส่งอาหาร คุณควรศึกษาและอ่านเงื่อนไขการแบ่งเปอร์เซ็นต์หรือค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ในหนังสือสัญญาเป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง

• ถ่ายรูปอาหารให้สวยโดดเด่น สีสด น่าทาน

การถ่ายอาหารให้สวยโดดเด่น สีอาหารสดน่าทาน สีตรงปก จะทำให้สามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญควรถ่ายอาหารในปริมาณจริง ไม่หลอกลวงผู้บริโภค ส่วนข้อห้ามในการถ่ายรูปอาหารคือ ห้ามแต่งสีอาหารให้ซีดโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ความอยากทานอาหารของลูกค้าลดลงค่ะ

• ใส่ใจเลือกบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับอาหาร

การเลือก บรรจุภัณฑ์ (Packaging) ควรเลือกให้เหมาะสมกับประเภทอาหาร เช่น อาหารแห้ง อาหารน้ำ เป็นต้น พร้อมทั้งแพ็คอย่างมิดชิดปิดสนิทเพื่อความแน่นหนา ไม่ให้เลอะเทอะออกมาก่อนถึงมือลูกค้า มิเช่นนั้นจะทำให้ความอยากทานอาหารของลูกค้าลดน้อยลง รวมถึงภาพลักษณ์แบรนด์ก็จะแย่ตามไปอีกด้วย โดยนอกจากการเลือกให้เหมาะสมกับประเภทอาหารแล้ว ต้องเน้นความสวยงามอีกด้วย เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าให้น่าดึงดูด ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจตั้งแต่ได้รับอาหารนั้นเองค่ะ

ถ้าหากสนใจสั่งซื้อบรรจุภัณฑ์ใส่อาหาร สามารถเข้ามาเลือกดูได้ที่เว็บไซต์ MyWaWa แหล่งรวมผู้ผลิตและผู้ค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่จะช่วยให้การทำธุรกิจของคุณสะดวก และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น